Home » 7 เทคนิคการใช้บัตรเครดิตให้คุ้ม ( แบบไม่พัง ) | แชทแชร์ ChatsShare | กด เงิน บัตร เครดิต

7 เทคนิคการใช้บัตรเครดิตให้คุ้ม ( แบบไม่พัง ) | แชทแชร์ ChatsShare | กด เงิน บัตร เครดิต

7 เทคนิคการใช้บัตรเครดิตให้คุ้ม ( แบบไม่พัง ) | แชทแชร์ ChatsShare


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

คลิปนี้แชทแชร์มาพร้อมกับเทคนิคการใช้เงิน การบริหารเงินค่ะ กับ
7 เทคนิคการใช้บัตรเครดิตให้คุ้ม ( แบบไม่พัง ) ค่ะ
เอาจริงๆมันก็คือสิทธิพิเศษของบัตรเครดิตนั่นแหละ
แต่แค่ต้องใช้บัตรเครดิตให้ถูกวิธีนะคะ ใช้ยังไงให้ได้เงินคืน ใช้ให้ไม่เป็นหนี้บัตร ทั้งบัตรกดเงินสด ทั้งบัตรเครดิตเลยน๊า
เรื่องนี้เรื่องใหญ่มากนะคะ กับการบริหารเงิน บริหารเงินไม่ดีก็พังมากกก ใช้สติเยอะๆนะคะ
❥ฝาก subscribe กดกระดิ่งให้ด้วยนะคะ
ติดตามแชทช่องทางอื่นๆได้ที่
Fb : www.facebook.com/chatsshare
Ig : @chatsshare
Twitter : @chatsshare
chatsshare แชทแชร์

7 เทคนิคการใช้บัตรเครดิตให้คุ้ม ( แบบไม่พัง ) | แชทแชร์ ChatsShare

บัตรกดเงินสดคืออะไร กดเงินออกมาแล้วเสียดอกเบี้ยเลยไหม | Guru Living


บัตรกดเงินสดคืออะไร กดเงินออกมาแล้วโดนคิดดอกเบี้ยเลยหรือเปล่า
สวัสดีครับวันนี้เราจะมาคุยกันถคง product ทางการเงินที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัวที่ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินหรือเคยได้ใช้บริการกันมาบ้างครับ product นั้นคือ “บัตรกดเงินสด” นั่นเองครับ
มาเริ่มกันตั้งแต่ความหมายของคำว่า “บัตรกดเงินสด” กันก่อนนะครับว่าหมายถึงอะไร ถ้าโดยความหมายแล้วบัตรกดเงินดก็คือสินเชื่อส่วนบุคคลรูปแบบหนึ่งนั่นแหละครับ ที่มาในรูปแบบของ “บัตร” ซึ่งจะมีความแตกต่างบัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่เราได้ใช้จ่ายกันในชีวิตประจำวันนะครับ บัตรกดเงินสดจะสามารถได้แค่กดเงินออกมาจากตู้เอทีเอ็มเท่านั้นครับไม่สามารถไปรูดชำระค่าบริการหรือค่าสินค้าต่างๆได้เหมือนกับบัตรเครดิตและบัตรเดบิตครับ
โอเค บัตรกดเงินสด คือบัตรที่มีไว้กดเงินออกมาจากตู้ ATM ตามชื่อแหละครับคำถามคือ จะกดได้กี่บาทหรือกดเท่าไรก็ได้เลยหรือเปล่า ในเรื่องวงเงินของเงินที่จะสามารถกดออกมาได้ก็จะขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้ถือบัตรเป็นหลักครับโดยปรกติแล้วเขาก็จะคิดอยู่ราวๆ 2 5 เท่าของรายได้ครับ ยกตัวอย่างถ้าเราเงินเดือน 20,000 แล้วเราไปทำบัตรกดเงินสด วงเงินที่เราจะได้จะอยู่ที่ 40,000 100,000 ครับประมาณนี้ วงเงินตรงนี้แล้วแต่ธนาคารนะครับ ครับซึ่งอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของบัตรกดเงินสดคือ “ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ใดๆมาค้ำประกัน” ก็สามารถเบิกเงินสดออกมาได้เลยครับ

See also  ให้การซื้อขายกองทุนรวมเป็นเรื่องง่าย | Streaming for Fund | streaming for fund pantip

ฟังแล้วอาจจะเริ่มเคลิ้ม เริ่มชอบใจ ฟังแล้วดูดีไปซะทุกอย่างเลยใช่ไหมครับ มาฟังเรื่องที่ต้องระวัดระวังในการใช้บัตรกดเงินสดบ้างครับ เริ่งนั้นคือเรื่อง “ดอกเบี้ย” ของเขาครับ มาทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า บัตรกดเงินสด อย่างที่ผมบอกไปตอนต้นว่าเขาเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลรูปแบบหนึ่งดังนั้นวิธีการคิดคำนวณอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดก็จะเหมือนกับสินเชื่อส่วนบุคคลครับนั่นคือการคิดแบบ “ลดต้นลดดอก” Effective Rate การคิดแบบนี้คือคิดดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจริงนะวันนั้นๆผู้ไปกี่วันจ่ายเท่านั้น ต้นลดดอกลด ซึ่งจะแตกต่างจากการคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่เป็นแบบคงที่ครับ
โดยอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของบัตรกดเงินสดจะอยู่ราวๆ 25 28% ต่อปีครับซึ่งถ้าเอาในมุมตัวเลข product จำพวก บัตรกดเงินสด กับ สินเชื่อส่วนบุคคล จะเป็น product ที่อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดแล้วครับสำหรับสินเชื่อของสถาบันการเงิน การที่ดอกเบี้ยเขาสูงแบบนี้เราจึงต้องระมัดระวังและวางแผนในการใช้เขาให้อย่างถูกวิธีไงครับ
และต้องบอกทุกคนให้เข้าใจตรงกันเลยนะครับว่า ตั้งแต่วันแรกที่เรากดเงินออกจากตู้ด้วยบัตรกดเงินสด ดอกเบี้ยได้เริ่มคิดคำนวนแล้วนะครับ ดอกเบี้ยของเขาจะคิดเป็นรายวันจริงตามที่เรายืมไปเลยครับ กด 1 วันก็จ่ายดอกใน 1 วัน กด 5 วันก็จ่ายดอกใน 5 วันครับ
ถ้าเทียบกันด้วยอัตราดอกเบี้ย บัตรเครดิตดอกเบี้ย 18 20 %
บัตรกดเงินสดอัตราดอกเบี้ย ดอกเบี้ย 25 28 %
ดอกเบี้ยที่มากกว่ากันถึงเกือบ 10% ต่อปี คำถามคือทำไมเราถึงยังควระใช้บัตรกดเงินสดแทนที่จะเป็นบัตรเครดิต
คือแบบนี้นะครับผมอยากให้เข้าใจ Main point ของบัตรกดเงินสดว่าเขาออก Product ตัวนี้มาเพื่อ “คนที่ต้องการสภาพคล่องในช่วงเวลาสั้นๆ” ต้องการเบิกเงินสดออกมาเผื่อใช้จ่ายฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินสดจิงๆเท่านั้นครับ อย่างที่เราคุยกันไปว่าบัตรกดเงินสด ทำง่าย ไม่มีค่าธรรมเนียมเวลากดเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีเหมือนบัตรเครดิต และ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำเวลากด มันจึงเป็นการได้เงินมาแบบง่ายๆครับ ซึ่งแม้ว่ามันจะกดง่ายจ่ายสะดวกแต่สิ่งที่ผมอยากให้เพื่อๆพึงระลึกไว้เสมอนะครับว่า สินเชื่อทุกชนิด มีราคาที่ต้องจ่ายนั่นก็คือ ดอกเบี้ย
บัตรกดเงินสดตัวนี้ก็เหมือนกันครับ ทุกครั้งที่จะกดเงินออกมา อยากให้ทบทวนดูก่แนว่าจำเป็นจริงๆไหม และ เรามีแผนหรือมีเงินสำรองในการชำระคืนหรือเปล่า เพราะย้ำอีกครั้งนะครับว่าดอกเบี้ยปีละประมาน 28% ซึ่งสูงมากกกกก อย่าใช้เพลินจนลืมคิด จนลืมคำนวน ไปนะครับ ทุกครั้งที่จะกดหรือกดออกมาแล้วให้คิดว่าต้องรีบชำระคืนให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยเดินไปเยอะมากครับ

See also  3 รูปแบบของประกันที่ลดหย่อนภาษีได้ | ltf ลดหย่อนภาษีได้เท่าไร

เพราะไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นปัญหาทางการเงินที่ใหญ่มากๆเลยครับ
จิงๆผมมีความเชื่ออย่างหนึ่งนะครับอันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวของผมนะ ผมเชื่อว่า สินเชื่อทุกประเภทมีประโยชน์และมีข้อดี ข้อเสียในตัวของเขาเองครับ เราจะไปเหมารวมว่า มันแย่ซะหมด หรือ อันนี้ไม่ดี อันนั้นไม่ดีอันนี้ผมคิดว่าก็น่าจะไม่จิงทั้บหมดนะครับ มันอยู่ที่เราครับ เราในฐานะเจ้าของสินเชื่อเราต้องวางแผน บริหาจัดการ ศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ของ product ทางการเงินพวกนี้และนำมาใช้ให้อย่างถูกต้องนะครับ

บัตรกดเงินสด บัตรเงินสด บัตรกดเงิน กดเงินสด

บัตรกดเงินสดคืออะไร กดเงินออกมาแล้วเสียดอกเบี้ยเลยไหม | Guru Living

วิธีถอนเงินผ่านตู้กสิกร ด้วยบัตรเดบิต | ถอนเงินใช้บัตร กสิกร


วิธีถอนเงินผ่านตู้กสิกร ด้วยบัตรเดบิต | ถอนเงินใช้บัตร กสิกร
ถอนเงิน กดเงินสด กสิกร

วิธีถอนเงินผ่านตู้กสิกร ด้วยบัตรเดบิต | ถอนเงินใช้บัตร กสิกร

รู้ก่อนสมัคร! ดอกเบี้ยบัตรเครดิตเกิดจากอะไร? คิดยังไง?


ดอกเบี้ย🌼 ใครที่กำลังจะสมัครบัตรเครดิต ห้ามพลาด!
ก่อนอื่นต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ \”ดอกเบี้ยบัตรเครดิต\” กันก่อน
ว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง? และมีวิธีคิดยังไง?
แล้วที่สำคัญที่สุด คือใช้แบบไหนไม่เสียดอกเบี้ยบัตรเครดิต เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด สะดวกสบาย ไม่ต้องพกเงินสด แถมเลือกผ่อน0% ได้สูงสุด10 เดือนอีกด้วย
เนื้อหา :
00:20 intro บัตรเครดิต
00:44 ดอกเบี้ยบัตรเครดิต เกิดจากอะไร
01:07 กรณีจ่ายขั้นต่ำ สูตรคำนวณ และวิธีคิดดอกเบี้ยฯ
03:43 กรณีจ่ายช้าเกินกำหนด สูตรคำนวณ และวิธีคิดดอกเบี้ยฯ
04:33 กรณีกดเบิกเงินสด สูตรคำนวณ และวิธีคิดดอกเบี้ยฯ
05:34 วิธีใช้บัตรเครดิตที่แนะนำ และคุณได้ประโยชน์
การเกิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้น จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ 3 กรณีด้วยกันค่ะ
🔴 กรณีที่ 1 กรณีที่เราจ่ายขั้นต่ำ โดยขั้นต่ำ10% ของยอดที่ต้องชำระเต็มจำนวน
: ดอกเบี้ยจะถูกคิดเป็น 2 ส่วนด้วยกัน
1. ดอกเบี้ยเงินต้น (ตั้งแต่วันบันทึกรายการ 1วันก่อนชำระในรอบบัญชีนั้น)
สูตรคือ = (ยอดใช้จ่าย x อัตราดอกเบี้ยฯ x จำนวนวัน) / จำนวนวันในรอบปี
2. ดอกเบี้ยจากยอดคงค้าง (ตั้งแต่วันชำระขั้นต่ำ วันสรุปยอดบัญชีถัดไป)
สูตรคือ = (ยอดใช้จ่ายยอดจ่ายขั้นต่ำ x อัตราดอกเบี้ยฯ x จำนวนวัน) / จำนวนวันในรอบปี
ข้อแนะนำ ควรรีบชำระคืนให้เร็วที่สุด และหยุดการใช้บัตรก่อน เมื่อจ่ายขั้นต่ำ
เพื่อไม่ให้มียอดใหม่ถูกเข้าไปคิดคำนวณด้วย และไม่ก่อดอกเบี้ยฯที่เพิ่มขึ้น

See also  Trò Chơi Máy Xúc Máy Cẩu Bắt Cá ❤ Bé Vui Cắm Trại Phần 3 ❤ Min Min TV Minh Khoa | umay plus สมัคร

🔴 กรณีที่ 2 จ่ายช้าเกินกำหนด
สูตรคือ = (ยอดใช้จ่าย x อัตราดอกเบี้ยฯ x จำนวนวันที่บันทึกจนถึงวันที่ชำระ) / จำนวนวันในรอบปี
และโดยเฉลี่ย +100 บาทต่อหนึ่งรอบบัญชีสำหรับค่าทวงถามหนี้

🔴 กรณีที่ 3 กดเบิกเงินสดจากบัตรเครดิต
สูตรคือ = (ยอดที่เรากดเงินสด x อัตราดอกเบี้ยฯ x จำนวนวันกดเงินสดจนถึงวันที่ชำระ) / จำนวนวันในรอบปี
และการกดเงินสดออกมาจากบัตรเครดิตยังมีค่าธรรมเนียมในการเบิกถอนเงินสดออกมาด้วย 3% (และ VAT 7% จากค่าธรรมเนียมในการเบิกถอนเงินสด)
………………………………………………………………………………………………………….
เมื่อเรารู้ว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตเกิดจากอะไรแล้ว และไม่จำเป็นจริงๆ ควรหลีกเลี่ยงการเกิดดอกเบี้ยฯ โดยมีหลักการง่ายๆคือ ใช้บัตรเครดิตแทนเงินสด ใช้ในสิ่งที่จำเป็น และต้องใช้อยู่แล้ว “จ่ายตรง จ่ายครบ” ก็จะตามมาด้วยผลประโยชน์อย่างมากมายเลยค่ะ
ใช้บัตรเครดิตอย่างปลอดภัยกับบัตรเครดิต KTC ไม่มีค่าธรรมเนียม
สมัครได้เลยที่นี่.. https://ktc.cards/yoc

ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คํานวณดอกเบี้ย คิดดอกเบี้ย คํานวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต หนี้บัตรเครดิต
หมายเหตุ : ปัจจุบันดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมใดใด ของบัตรเครดิต KTC = 16% ต่อปี (ตั้งแต่ 3 พ.ย. 2563)

รู้ก่อนสมัคร! ดอกเบี้ยบัตรเครดิตเกิดจากอะไร? คิดยังไง?

คิมมี่ คุง/บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดดอกเบี้ยอันไหนแพฃกว่ากัน


ดอกเบี้ยบัตรเครดิต Vs บัตรกดเงินสด

คิมมี่ คุง/บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดดอกเบี้ยอันไหนแพฃกว่ากัน

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆFINANCE

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *